CFTC ชี้ฟิวเจอร์ส COMEX ทอง  พลิกเป็น “ขายสุทธิ” ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี
CFTC ชี้ฟิวเจอร์ส COMEX ทอง พลิกเป็น “ขายสุทธิ” ครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี

สถานะสุทธิของข้อมูลที่แยกประเภทของคณะกรรมาธิการการซื้อขายสัญญาล่วงหน้าสินค้าโภคภัณฑ์(CFTC)ของสหรัฐ  ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่จะสะท้อนให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างจำนวนสถานะซื้อ(Long Position) และสถานะขาย (Short Position) โดยนักลงทุนจะใช้ข้อมูลดังกล่าวเพื่อประเมินอารมณ์โดยทั่วไปของนักเก็งกำไรในตลาดทองคำได้   

นับตั้งแต่เม.ย. ปี 2019 สถานะสุทธิสัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX ของบรรดากองทุนเฮดจ์ฟันและผู้จัดการกองทุนได้กลายเป็น “สถานะซื้อสุทธิ” ต่อเนื่องติดต่อกัน  หลังจากกองทุนเฮดจ์และผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มสถานะซื้อและลดสถานะขาย ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยเชิงบวกที่เคยสร้างแรงหนุนให้ราคาทองคำนับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

แต่ภาพรวมของการถือครองสถานะการลงทุนในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำตลาด COMEX เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัดนับตั้งแต่ในเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา  สะท้อนจากจำนวนสถานะซื้อที่ปรับตัวลดลง ในขณะที่จำนวนสถานะขายก็ค่อยๆปรับตัวเพิ่มขึ้น  จนทำให้จำนวนสถานะซื้อสุทธิลดลงเรื่อยมา 

จนกระทั่งล่าสุด  ข้อมูลจาก CFTC ในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 12 ก.ค. 2022 บ่งชี้ว่า  บรรดากองทุนเฮดจ์และผู้จัดการกองทุนได้ “ลด” สถานะซื้อในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำลงเหลือ 91,669  สัญญา  ซึ่งลดลง 11,803  สัญญาหากเปรียบเทียบกับสถานะซื้อในสัปดาห์ก่อนหน้า  ขณะเดียวกันสถานะขายในสัญญาฟิวเจอร์สทองคำกลับเพิ่มขึ้น 11,364  สัญญา  จากสัปดาห์ก่อนหน้าสู่ระดับ 97,802  สัญญา  จนทำให้สถานะสุทธิในตลาดกลับมาเป็น “สถานะขายสุทธิ” เป็นครั้งแรกในรอบกว่า 3 ปี  หรือ นับตั้งแต่สัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 24 เม.ย. 2019 

การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นบ่งชี้ถึงแรงเก็งกำไรในทิศทางขาลงที่เพิ่มขึ้น สอดคล้องกับการเคลื่อนไหวของราคาทองคำที่ปิดปรับตัวลดลงในรายเดือนนับตั้งแต่เดือนเม.ย.-มิ.ย. เป็นต้นมา  ขณะที่เดือนก.ค.ราคาทองคำปรับตัวลดลงต่อ  และมีแนวโน้มจะปิดตลาดรายเดือนในแดนลบเป็นเดือนที่ 4 ติดต่อกัน   ทั้งนี้  หากสถานะขายสุทธิยังดำเนินต่อไปจะถือเป็น Sentiment เชิงลบที่อาจทำให้ราคาทองคำในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2022 มีแนวโน้มได้รับแรงกดดันต่อไป  ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่นักลงทุนจะต้องระมัดระวังเพิ่มเติม 

YLG แนะนำให้นักลงทุนติดตามข้อมูลดังกล่าว  แต่ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนก  เพราะในบางครั้งปริมาณสถานะสุทธิในตลาดสามารถใช้เป็นสัญญาณที่บ่งชี้ถึงการกลับตัวของตลาดได้  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากจำนวนสถานะสุทธิสูง หรือ ต่ำเกินไป  จะเป็นสัญญาณที่อาจบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะซื้อมากเกินไป(overbought) หรือ ภาวะขายมากเกินไป(oversold) ได้อีกด้วย  จึงแนะนำนำลงทุนติดตามข้อมูลดังกล่าวเพื่อใช้เป็นอีกหนึ่งข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุน